painting lighting


คุณเคยรู้สึกปวดตาเวลาอ่านหนังสือหรือเกิดความผิดพลาดในการแต่หน้าบ้างไหมคะ ถ้าเคยแล้วละก็ อาจเป็นไปได้ว่าคุณกำลังใช้หลอดไฟในบ้านผิดประเภท วันนี้ลองมาศึกษาและทไความรู้จักกับประเภทของหลอดไฟ รวมถึงวิธีการเลือกใช้ให้ตรงกับประโยชน์ใช้สอย ทีนี้แน่ใจเลยว่าไม่เกิดปัญหาแบบเดิม ๆ อีกแล้ว

แสงสว่างจากไฟ้ฟ้าดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้อีกแล้วในปัจจุบันนี้ คงจะลำบากทีเดียว ถ้าวันไหนไฟดับขึ้น หลายคนคงจะหงุดหงิดไปตาม ๆ กัน ยิ่งถ้าเป็นตอนกลางคืนด้วยแล้ว คงต้องเข้านอนกันเดี๋ยวจั้นเลยก็ว่าได้ จากการเลือกประเภทของหลอดไฟและแสงสว่างตามความเหมาะสมในการใช้งาน ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ก่อนอื่นเราควรมารู้จักประเภทของหลอดไฟและการให้แสงกันก่อน หลอดไฟที่ใช้ในบ้านปัจจุบันนี้มีอยู่ 2 ชนิด คือ

1.หลอดแบบมีไส้
เป็นหลอดไฟประเภททีใช้ความร้อนเผาไส้หลอด ไส้หลอดจะทำด้วยทังสเตนอยู่บริเวณในกลางหลอด ทำหน้าที่ให้แสงสว่าง มีทั้งที่เป็นหลอดฝ้าและหลอดใส ต่อมามีการพัฒนาเป็นแฮโลเจน ซึ่งเป็นหลอดแบบมีใส้ที่นิยมใช้กันมาก เนื่อจากมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ได้ความสว่างที่มากกว่า แสงที่ได้จากหลอดประเภทนี้จะเป็นแสงโทนอุ่น ตั้งแต่เหลืองเข้มไปจนถึงเหลืองอ่อน แต่ปัจจุบันมีการพัฒนา สามารถผลิตหลอดไส้แบบให้แสงขาวได้แล้ว แต่จะหายากและมีราคาสูงเนื่องจากเป็นการผลิตแบบพิเศษ

คุณสมบัติของแสง
เป็นแสงที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย แสงนวลสบายตา สามารถกำหนดทิศทางของแสงได้มั่นคง สามารถโฟกัสเส้นแสงไปในทางที่เราต้องการได้ชัดขึ้น วัสดุที่ถูกแสงนี้ส่องจะให้ค่าสีใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด แสงประเภทนี้จะมีความเป็นประกาย ทำให้สามารถเน้นสิ่งของได้ชัดเจน ซึ่งนอกจากจะใช้ในบ้านแล้วยังเหมาะที่จะใช้ในงานร้านค้าที่เน้นของโชว์สินค้าด้วย

ข้อดี-หลอดประเภทนี้สามารถหรี่ไฟได้ตามต้องการ สร้างบรรยากาศและน้ำหนักแสงได้ตามที่ต้องการ

ข้อเสีย-อายุการใช้งานสั้น เพราะใช้ขดลวดรับแรงต้านจากตัวความร้อน นอกจากนี้เมื่ือใช้ความร้อนมากจึงสิ้นเปลืองพลังไฟฟ้ามาก และ หลอดมักจะขาดเมือเกิดเวลาไฟตก หรือไฟกระชาก

ประโยชน์ใช้สอย
ถึงแม้ว่าจะมีข้อเสียและอายุการใช้งานสั้น แต่ 95 เปอร์เซนต์ของคนส่วนใหญ่ก็ยังนิยมใช้หลอดไฟประเภทนี้อยู่ เนื่องจากให้ความรู้สึกสบาย อบอุ่น


2.หลอดฟลูออเรสเซนต์
เป็นหลอดไฟแบบไม่มีไส้ แสงที่ได้เกิดจากความเรื่องแสงของผงเคมีที่เคลือบไว้บนผิวด้านในหลอด ในขนะที่มีแสงไฟฟ้าเคลื่อนที่ไปมาระหว่างขั้วทั้งสองของหลอดเปล่งแสงจากก็าซที่อยู่ข้างใน การเคลื่อนที่ไปมาของกระแสไฟฟ้าภายในหลอดอยู่ในความควบคุมของตัวควบคุมเป็นอุปกรณ์เสริม เช่น บัลลาสต์ ทำหน้าที่ควบคุมแรงดันไฟฟ้า สตาร์ทเตอร์ ทำหน้าที่จุดประกายไฟ ปัจจุบันนี้มีการออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของฐานหลอดไปในตัว ทำให้สวยงามและดูกะทัดรัดขึ้น

คุณสมบัติของแสง
หลอดประเภทนี้จะให้แสงฟุ้งเนื่องจากการเปล่งแสงจะเรืองรอบตัวเอง มีความสว่างเท่า ๆ กัน แสงจะสว่างมาก มี 3 ลักษณะแสงคือ

cool white
แสงที่ได้จะขาวจัด ให้ความรุ้สึกกระฉับกระเฉง เร่งรีบ นอกจาใช้ในบ้านแล้วยังมีการนำไปใช้ในออฟฟิศ กระตุ้นให้คนอยากทำงานหรือใช้ในร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด ร้านที่ต้องรีบกินรีบไป

warm white
แสงที่ได้จะไม่ออกโทนเหลืองเหมือนหลอดแบบมีไส้ แต่จะออกเป็นขาวอมชมพู หลอดฟลูออเรสเซนต์ประเภทนี้จะให้สีใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด

day light
ให้แสงขาวอมฟ้า หลอดชนิดนี้ใช้เมื่อต้องการเปรียบเทียบสีวัสดุให้ชัดเจน เช่น เสื่้อผ้าสีดำและสีน้ำเงิน สีมีควาใกล้เคียงกันมาก ถ้าเป็นหลอดมีใส้อาจจะดูยาก เพราะแสงออกโทนอุ่น ๆ อาจไม่สว่างมากพอแต่เดย์ไลท์จะช่วยแยกสีได้ดีกว่า

แสงที่ได้มีการผลิตให้เหมาะกับการใช้งานแต่ละประเภท ควรนำไปใช้ให้ถูกต้อง สำหรับหลอดประเภทนี้มีข้อดีข้อเสียคือ

ข้อดี-อายุการใช้งานนาน ไม่มีปัญหาเรื่องหลอดขาด ไม่สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า อีกทั้งไม่ร้อนมาก ให้แสงสว่างชัดเจน

ข้อเสีย-ราคาค่อนข้างสูง แสงที่ออกมาสว่างมากเกินไปบางทีทำให้ไม่สามารถสร้างบรรยากาศได้ สร้างน้ำหนักของแสงไม่ได้ เนื่องจากสว่างเท่ากันหมด เมื่อก่อนไม่สามารถหรีไฟได้ แต่ปัจจุบันสามารถทำได้ แต่ค่อนข้างจะยุ่งยาก ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์ Electronic Control Gear ในการควบคุม อีกทั้งยังหรี่ไฟได้ไม่มากเท่าที่ควร เนื่องจากในประเทศไทย การส่งกระแสไฟยังไม่สม่ำเสมอนัก ถ้าหรี่มากเกินไป ไฟจะกะพริบ ทำให้อายุการใช้งานสั้นลงไปอีก การเปิด ปิดบ่อย ๆ จะทำให้อายุการใช้งานของหลอดสั้นด้วยเช่นกัน

ประโยชน์ใช้สอย
สำหรับคนที่ชอบแสงสว่างมาก ๆ แล้วสามารถนำไปใช้ในบ้านได้ทุกห้อง แต่ห้องที่เน้นโดยเฉพาะ ว่าควรใช้ไฟประเภทนี้คือ ห้องออกกำลังกายเพื่อให้เกิดความรู้สึกกระฉับกระเฉง ตึ่นตัว ฯลฯ

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม